ผ่าประเด็นร้อน ทีมชาติไทย บุกคว้าชัยถึงถิ่น อิเหนา

ผ่าประเด็นร้อน ทีมชาติไทย สามารถบุกออกไปเก็บชัย เหนือทีมชาติอินโดนีเซีย 3-0 ปลดล้อคทีมชาติไทย และชัยชนะนัดแรกกับเฮดโค้ช นิชิโนะ ในการมาคุมทีมชาติไทย

 

ผ่าประเด็นร้อน หลังจากทีมชาติไทย สามารถบุกไปคว้าชัยเหนือ อินโดนีเซีย ที่สนามเกโลรา บุงการ์โน  ได้ด้วยสกอร์ 3-0 เป็นผลงาน ที่ทำให้คนไทยทั้้งประเทศ ประทับใจ ทั้งที่ไปดูที่สนาม และแฟนบอลไทย ที่เฝ้าหน้าจอทีวี อีกทั้งเป็น ชัยชนะ นัดแรก ของ เฮดโค้ช นิชิโนะ กับทีมชาติไทย

พร้อมฟอร์การเล่นของ สุภโชค สารชาติ ที่มีส่วนร่วมกับสามประตู ที่ทีมไทยได้ อีกทั้งฟอร์มการเล่นของสองนักเตะสตาร์ดัง

จากเจลีก โดยเฉพาะ โก๋อุ้ม ธีราธร บุุญมาทัน ที่ยิง 1 จ่าย 1 ส่วน เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ยังเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมชาติไทย

กล้าตัดใจ ของเฮดโค้ช นิชิโนะ

อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้มีการปรับทัพ จากนัดแรก ที่พบกับทีมชาติเวียดนาม เนื่องจากการบาดเจ็บของ

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ถอนตัวจากทีมชาติ กลับไปรักษาตัวที่ญี่ปุ่น ซึ่งวันนี้ นิชิโนะ ได้ปรับแทคติกเป็น 4-2-3-1 และ

ตัดสินใจ ส่งศูนย์หน้าหนึ่งเดียวของไทยในชุดนี้ อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด ลงมายืนหน้าเป้า  ส่วนเกมรุกทางด้านขวา ทางนิชิโนะ ส่งเจ้าบุ้ค เอกนิษฐ์ ปัญญา ดาวรุ่งวัย 19 ปี จากเชียงราย ยูไนเต็ด และ ตัดสินใจดร็อบ ธนบูรณ์ เกศารัตน์ ซึ่งเล่นได้ดี ในนัดแรก

โดยในเกมนี้ ทางอากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย วางระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูกัปตันทีม ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสา กองหลัง สี่คน จากขวา ทริสตอง โด,มานูเอล ทอม เบียรห์,พรรษา เหมวิบูลย์,ธีราทร บุญมาทัน ส่วนแดนกลางตัวรับสองคน ให้สารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล สามกองกลางตัวรุก เอกนิษฐ์ ปัญญา,ชนาธิป สรงกระสินธ์,สุภโชค สารชาติ วาง ศุภชัย ใจเด็ด ยืนหน้าเป้า ทำให้เกมรุกดูดีขึ้นกว่านัดแรก ถูกใจคนไทยทั้งประเทศ

ทางด้านทีมชาติอินโดนีเซีย เฮดโค้ช ไซม่อน แมคเมนีมี ชาวสก็อตช์ จัดผู้เล่นชุดใหญ่ แดนหน้ามี เบโต้ กองหน้าวัยเก๋า 38 ปี ยืนเป็นหัวหอก โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง สเตฟาโน่ ลิลิพาลี่ และ อิฟราน บัชดิม ยืนอยู่ข้างหลัง

การวางแทคติกของนิชิโนะ ในวันนี้ ทำให้เราส้างสรรค์เกมรุกที่หลากหลายมากขึ้นกว่านัดแรก โดยแบ็คทั้งสองฝั่ง สามารถเติมบุกได้มากขึ้น โดยเฉพาะทางด้านซ้าย จากโก๋อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน ส่วนเจ ชนาธิป ฟอร์มการเล่น อาจจะไม่โดดเด่นมากนัก อย่างที่ทุกคนคาดหวัง เพราะโดนประกบติดตลอดจาก

ฝั่งอินโดฯ แต่เจ ก็มีความสำคัญ สามารถดึงนักเตะอินโดฯเข้ามาประกบ ทำให้ สุภโชค และ เอกนิษฐ์ เล่นง่ายขึ้น รวมทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด เป็นทั้งตัวพักบอลและดึงกองหลังมาประกบ ทำให้เพื่อนๆในทีม มีพื้นที่ มีโอกาส ทำเกม ต่อเกม กันง่ายขึ้น

สนามโล่งมาก

สนามเกโลรา บุง การ์โน ที่มีความจุสนามที่รองรับได้ราวๆ 70,000 คน แต่นัดนี้กับมีแฟนบอลเข้าชม ประมาณ 17,000 ทำให้เราเห็นภาพบนอัฒจันทร์นั้นค่อนข้างโหรงเหรง น้อยมาก ซึ่งเกมนี้ ตามที่ผู้สื่อข่าวของไทย รายงานว่า ตั๋วเข้าชมเกมที่ดวลกับไทย นั้นขายได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นใบ ซึ่งผิดคาดจากนัดแรก มีแฟนบอลเข้าชมเกมที่ อินโดฯกับมาเลเซีย เกือบ 70,000 คน เต็มความจุของสนาม โดยแน่นอนว่าเป็นผลดีกับนักเตะทีมชาติไทย เรื่องเสียงเชียร์ ไม่ต้องเจอกับความกดดัน จากกองเชียร์เจ้าถิ่น ถึงแม้ว่าจะมีส่งเสียงเชียร์มาบ้าง แต่ทีมชาติไทย นักเตะทุกคนก็สามารถ แสดงผลงานได้ยอดเยี่ยม และยิ่งในครึ่งหลัง หลังจากที่ทีมชาติไทย ได้ประตูแรก 1-0 เสียงเชียร์เจ้าถิ่นกลับโห่ใส่ นักเตะทีมชาติตัวเอง ซึ่งทำผลงานด้อยลงกว่าครึ่งแรก

สุภโชค ฮีโร่

จากเกมนัดแรกที่ทีมชาติไทย เปิดบ้านทำได้แค่เสมอ ทีมชาติเวียดนาม หลังจบเกมวันในวันนั้น นักเตะที่โดนวิจารณ์อย่างหนัก จากสื่อ หรือจากแฟนบอลไทย ซึ่งก็คือ สุภโชค สารชาติ ในวันนั้น มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น หลังจากได้รับโอกาส จากนิชิโนะ ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง แต่เสียงวิจารณ์ก็ไม่ทำให้เขาเสียความมั่นใจลงเลย กลับมุ่งมั่น ทุ่มเท จนทำให้ผลงานดีในนัดนี้กลายเป็นฮีโร่ สำหรับทีมชาติไทย สามารถยิงได้สองประตู และยังสามารถ เรียกจุดโทษ ให้ทีมชาติไทย อีกหนึ่งประตู และได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตซ์

อย่างไรก็ตาม  ความมั่นใจของนิชิโนะ และนักเตะในทีมทุกคน มีเต็มที่ พร้อมแรงใจนักเตะคนที่ 12 ก็คือ เสียงเชียร์ จากแฟนบอลชาวไทย ที่ให้กระแสตอบรับ กับ ทีมชุดนี้ ที่ทำให้บัตรเข้าชมเกมการแข่งขัน ขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล: สยามกีฬา

บทความที่น่าสนใจ

TND168HENG’S TEAM

 

Scroll to Top